🚀พิธีปิดการอบรมหลักสูตรผู้จัดการโรงงานรุ่นที่ 30
📅วันที่ 22 – 23 พ.ย. 68 ณ โรงแรมชาโต เดอ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
🤵โดย คุณถาวร ชลัษเฐียร ประธาน สม.
🤵‍♂️ ดร.ฉัตรแก้ว ฮาตระวัง
🤵‍♂️ ดร.สุทธิพงษ์ สุวรรณสุข
🤵‍♂️ คุณสุพจน์ สุขพิศาล
🤵‍♂️ คุณพิเชษฐ จันสกุลวิบูลย์
🤵‍♂️ ดร.วิชัย ศรีมาวรรณ์

🤵‍♂️ผอ.รุ่งเรือง สายพวรรณ์

จบลงแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับหลักสูตรผู้จัดการโรงงานรุ่นที่ 30 ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีม🏆บริษัท สามัคคี 99 จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ภายใต้ความท้าทายในการต้องการ Diversify ธุรกิจใหม่

 

คุณถาวร ชลัษเฐียร ประธาน สม.เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรผู้จัดการโรงงาน เพื่อให้แนวคิดในการเติบโตเป็นผู้บริหารที่สมบูรณ์ โดยให้ข้อคิดเรื่อง การเรียนรู้ ในการเป็นผู้บริหารต้องรู้จริงและรู้รอบ แต่การเรียนรู้นั้น “เราไม่สามารถเรียนรู้ใบไม้ได้หมดทั้งป่า แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากใบใม้ในกำมือ”เพียงแค่เราเริ่มเรียนรู้จากสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัวก็จะทำให้สามารถรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง”

📍โดยท่านได้ฝากข้อคิด 6 ข้อ ในการเป็นผู้นำที่ดี (Future Trend Leadership 2025) “ผู้ต้องเปลี่ยนจาก ผู้นำเชิงรับ ไปเป็น ผู้นำเชิงรุก” ให้กับผู้เข้าอบรมผู้จัดการโรงงานทุกคน ดังนี้

🔺️ไวต่อความรู้สึก (Emotional Aperture) ผู้นำต้องสามารถอ่านบรรยากาศและอารมณ์ของทีมได้และต้องสังเกตปฏิสัมพันธ์ของทีมงานอยู่เสมอ
🔺️การสื่อสารแบบปรับตัว (Adaptive Communication) ผู้นำต้องปรับสไตล์การสื่อสารให้เหมาะกับสถานการณ์และผู้ฟังแต่ละคน เพื่อเข้าใจมุมมองและความต้องการของแต่ละคน
🔺️การคิดแบบยืดหยุ่น (Flexible Thinking) ผู้นำต้องพร้อมรับมือกับความคลุมเครือแลเปิดรับมุมมองใหม่ๆ โดยผ่านการตั้งคำถาม ใช้เทคนิคการทำ Mind Mapping เพื่อเชื่อมโยงไอเดียต่างๆ และสิ่งสำคัญ คือ “เปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ แม้จะขัดแย้งกับความเชื่อเดิม”
🔺️การแสวงหาและประสานมุมมองใหม่ๆ (Perspective Seeking, Taking and Coordinating) หลายครั้งคนที่ขึ้นมาเป็นผู้นำมักมองข้ามมุมมองของผู้อื่นในหลาย ๆ ครั้ง ดังนั้นผู้นำที่ดีต้องทำความเข้าใจความแตกต่าง เพราะแต่ละคนมีภูมิหลังที่ต่างกันและมุมมองที่แตกต่าง แต่ในมุมมองที่แตกต่างกันนั้น อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหากผู้นำเปิดใจยอมรับคนที่มีมุมมองแตกต่างจากความคิดของตนเอง
🔺️การสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ (Strategic Disruption skill) ผู้นำยุคใหม่ต้องกล้าตั้งคำถามกับแนวปฏิบัติที่ล้าสมัยและผลักดันการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
🔺️การตระหนักรู้ในตนเองอย่างยืดหยุ่น (Resilient Self-Awareness) ผู้นำมักถูกคาดหวังให้รับมือได้กับทุกสถานการณ์ ดังนั้นผู้นำต้องมีเครือข่ายทั้งในและนอกที่ทำงานและเรียนรู้วิธีจัดการกับภาวะกดดันทั้งด้านร่างกายและจิตใจเพื่อที่จะพร้อมรับมือได้กับทุกสถานการณ์

💎“การเป็นผู้นำในปี 2025 ที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและความคาดหวังของพนักงานต่อตัวผู้นำมีมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับตัวผู้นำ ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายขึ้น”
ทั้งนี้ขอขอบคุณ คุณถาวรฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้การสนับสนุน🙏

แชร์บทความ