พิธีปิดการอบรมหลักสูตรผู้จัดการโรงงานรุ่นที่ 29
วันที่ 28 – 29 มิ.ย. 68 ณ โรงแรมหัวหิน แกรนด์ โฮเทล แอนด์ พลาซ่า จ.ประจวบคีรีขันธ์
ดร.ฉัตรแก้ว ฮาตระวัง ดร.สุทธิพงษ์ สุวรรณสุข คุณสุพจน์ สุขพิศาล คุณพิเชษฐ จันสกุลวิบูลย์ ผอ.รุ่งเรือง สายพวรรณ์จบลงแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับหลักสูตรผู้จัดการโรงงานรุ่นที่ 29 ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีมA.S.P.จาก
บริษัท เอ.เอส.พี. อินเตอร์เฮอร์บัลโซป จำกัด ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสบู่ (skincare) ภายใต้ความท้าทายในการต้องการขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้น
บริษัท เอ.เอส.พี. อินเตอร์เฮอร์บัลโซป จำกัด ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสบู่ (skincare) ภายใต้ความท้าทายในการต้องการขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้นคุณถาวร ชลัษเฐียร ประธาน สม.เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรผู้จัดการโรงงาน เพื่อให้แนวคิดในการเติบโตเป็นผู้บริหารที่สมบูรณ์ โดยให้ข้อคิดเรื่อง การเรียนรู้ ในการเป็นผู้บริหารต้องรู้จริงและรู้รอบ แต่การเรียนรู้นั้น “เราไม่สามารถเรียนรู้ใบไม้ได้หมดทั้งป่า แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากใบใม้ในกำมือ”เพียงแค่เราเริ่มเรียนรู้จากสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัวก็จะทำให้สามารถรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง”
โดยท่านได้ฝากข้อคิด 5 ข้อ ในการเป็นผู้นำที่ดีให้กับผู้เข้าอบรมผู้จัดการโรงงานทุกคน จะต้องห้ามพูด 5 ข้อ ดังนี้
I’m busy to do that. ผมยุ่งมากไม่มีเวลาเลย นั่นจะหมายความว่า คุณไม่สามารถจัดการเวลาและเรียงลำดับความสำคัญของงานได้No able man in my section. ไม่มีคนที่มีความสามารถในฝ่ายของผมเลย นั่นหมายความว่าคุณไม่สอนลูกน้องหรือพัฒนาลูกน้องให้เก่งขึ้น จนสามารถเติบโตขึ้นมาทดแทนได้This job not my responsibility. งานนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฉัน เพราะงานทุกอย่างมีความเกี่ยวข้องกันเปรียบเสมือนวงกลม เมื่อนำวงกลมมาต่อกันเราจะเห็นช่องว่างในงานอยู่เสมอ ดังนั้นการเติมเต็มช่องว่างหรือการแทรกแซงในเชิงบวกจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการทำงานMy job very hard no body help me. เราต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดNo precedent I can’t do it. อย่าพูดว่าไม่มีตัวอย่างแล้วทำไม่ได้ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอาจจะอยู่ที่นั่น แต่ความสำเร็จอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะมีความพยายามอยู่เสมอ”
สุดท้ายคุณถาวรฯ ได้ให้ Leadership Progression Model (โมเดลความก้าวหน้าของภาวะผู้นำ)1.Leading Myself : การนำตนเอง เพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญ/เป็นผู้นำแม้ไม่มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงแต่ต้องมีส่วนร่วมในความสำเร็จของทีม เป้าหมาย คือ เพิ่มประสิทธิภาพและผลการทำงานของตนเอง
2. Leading Others : การนำผู้อื่น เพื่อมุ่งเน้นบุคคลและทีมให้อยู่กับภารกิจ พัฒนาทีมให้มีความสามัคคี พัฒนาศักยภาพและการเติบโตของบุคคล เป้าหมาย คือ เพิ่มประสิทธิภาพและผลการทำงานของผู้อื่น
3.Leading a function : การนำฝ่ายงาน/สายงาน เพื่อกำหนด Goal ตามกลยุทธ์จัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมและสามารถติดตามผลและยกระดับประสิทธิภาพได้ เป้าหมาย คือ เพิ่มประสิทธิภาพของสายงานและผลการดำเนินงาน
4.Leading an organization : การนำองค์กร เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กร สร้างความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ เป้าหมาย คือ เพิ่มผลการดำเนินงานขององค์กรและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น
สุดท้ายนี้หัวใจในการเป็นผู้นำมี 5 ข้อดังนี้
มีความเสมอต้นเสมอปลาย เน้นการสื่อสาร เสริมสร้าง Relation ที่ดีกับคนรอบข้างและติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่หากวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ มีความสามารถในการเจรจาต่อรองและสิ่งสำคัญที่ผู้นำต้องมีคือ “3 พ คือ พี่ เพื่อน พวก”
ทั้งนี้ขอขอบคุณ คุณถาวรฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้การสนับสนุน